ไม่มีสินค้าในตะกร้า
หัวเว่ยได้เปิดตัวแผนงานแฟลซฟอร์เวิร์ดเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ รับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลในยุคอัจฉริยะ
บาร์เซโลน่า, สเปน, 5 มีนาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ — หัวเว่ย (Huawei) ได้เปิดตัวแผนงานแฟลซฟอร์เวิร์ด (Flash Forward) ที่งาน MWC Barcelona 2024 ซึ่งส่งเสริมการดำเนินงานใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วยออลแฟลชสำหรับทุกสถานการณ์ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพื่อช่วยองค์กรต่างๆ ในการรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลต่างๆ ในยุคอัจฉริยะ
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแฟลชได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในสถานการณ์แอปพลิเคชันหลักระดับองค์กรที่หลากหลาย เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานต่ำ และมีความน่าเชื่อถือสูง โดยการ์ทเนอร์ (Gartner) ได้คาดการณ์ว่าตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลออลแฟลชจะมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมากกว่า 90% ภายในปี 2569
แผนงานแฟลซฟอร์เวิร์ดของหัวเว่ยนำเสนอการดำเนินงานใน 3 ประเด็นหลักเพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง:
1. ออลแฟลชสำหรับทุกสถานการณ์
หัวเว่ยได้นำเสนอ F2F2X ที่รองรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลออลแฟลชสำหรับการผลิต การสำรองข้อมูล และการจัดเก็บถาวรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการประมวลผลในอุตสาหกรรมต่างๆ และสถานการณ์แอปพลิเคชันบริการที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแฟลชรุ่นใหม่อีกด้วย:
- OceanStor Pacific 9920 ระบบจัดเก็บข้อมูลออลแฟลชแบบสเกลเอาต์ที่มาพร้อมความจุสูงในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับสถานการณ์เวิร์กโหลดแบบไฮบริด
- OceanStor 5310/5510 ระบบจัดเก็บข้อมูลชนิดแฟลชความจุ ซึ่งออกแบบมาสำหรับจัดเก็บและสำรองข้อมูลบริการที่สำคัญต่อธุรกิจในปริมาณมาก
- OceanStor Dorado 2100 เป็น NAS ออลแฟลชระดับเริ่มต้นตัวแรกของอุตสาหกรรมที่มีสถาปัตยกรรมแบบแอคทีฟ-แอคทีฟ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิเช่น การประมวลผลข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างช้า รวมถึงความยุ่งยากในการแชร์และแยกส่วนสำหรับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง
2. คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของหัวเว่ยใช้งานชุดมาตรการที่เป็นนวัตกรรมเพื่อปรับปรุงการใช้งานทรัพยากรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มาตรการเหล่านี้ประกอบด้วย:
- การปรับใช้แนวคิดในการลด การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล (3Rs) อย่างเคร่งครัด และนำวัสดุหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ลงได้ถึง 78%
- การปรับปรุงความหนาแน่นของฮาร์ดแวร์ และประสิทธิภาพในการระบายความร้อนผ่านนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ ซึ่งส่งผลให้มีความหนาแน่นสูงถึง 24 ดิสก์ต่อ U และประหยัดพื้นที่ดิสก์มากกว่าโซลูชันแบบเดิมถึง 65%
- การพัฒนานวัตกรรมซอฟต์แวร์เพื่อให้ได้อัตราส่วนการลดข้อมูล 72:1 ในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม และปรับปรุงการใช้งานดิสก์เป็น 91% ผ่านเทคโนโลยี EC แบบยืดหยุ่น 22+2 ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ
3. ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของข้อมูล
หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานข้อมูลที่มีเสถียรภาพและมีความน่าเชื่อถือเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระดับองค์กรสามารถปกป้องข้อมูลอันมีค่าของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้างแนวป้องกันด่านสุดท้ายให้กับความยืดหยุ่นของข้อมูลด้วยการทำงานร่วมกันที่เก็บข้อมูลบนเครือข่าย: โซลูชันป้องกันแรนซัมแวร์หลายระดับ (Multilayer Ransomware Protection หรือ MRP) ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นครั้งแรกโดยหัวเว่ย ซึ่งนำเสนอขีดความสามารถในการปกป้องข้อมูลการทำงานร่วมกันแบบหลายชั้นในเครือข่ายและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างล้ำสมัย โดยมีความแม่นยำในการตรวจจับแรนซัมแวร์สูงถึง 99.9% และมีแบนด์วิดท์การกู้คืนถึง 172 TB/ชั่วโมง ผ่านการปรับใช้หลักสามรายการที่ปกป้องข้อมูลจากความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี: การตรวจจับที่จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายการทำงานร่วมกัน การตอบสนอง และการกู้คืน
Go Green Innovation
ไมเคิล ฉิว (Michael Qiu) ประธานแผนกการตลาดศูนย์ข้อมูลและการขายโซลูชันระดับโลกของหัวเว่ย กล่าวว่า "เราคาดหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยืดหยุ่น และน่าเชื่อถือผ่านการดำเนินงานของเราที่เกี่ยวข้องกับแผนงงานแฟลชฟอร์เวิร์ด ซึ่งจะช่วยให้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีได้เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอย่างแท้จริง พร้อมกับช่วยเหลือองค์กรต่างๆ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและการอัปเกรดระบบอัจฉริยะ"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของหัวเว่ย โปรดเข้าไปที่ลิงก์
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
