ทุนสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นนี้จะดำเนินการโดย UNICEF ร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นและนานาชาติเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้เด็กจำนวน 3.2 ล้านคนไม่ได้รับการศึกษา
นิวยอร์ก, 21 ธันวาคม 2567 /PRNewswire/ — ชาดเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก โดยมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สงครามในประเทศเพื่อนบ้านอย่างซูดาน ความขัดแย้งระหว่างชุมชน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยอื่น ๆ ล้วนสร้างผลกระทบที่นำไปสู่การพลัดถิ่นมากขึ้น และขัดขวางเส้นทางการศึกษาของผู้เรียนหลายล้านคน
เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นนี้ Education Cannot Wait (ECW) ร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ได้ประกาศมอบทุนสนับสนุนจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ เพื่อขยายโครงการเสริมสร้างความพร้อมรับมือระยะยาวในชาด โดยจะมอบความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตกว่า 66,000 คน
ทุนนี้จะดำเนินการโดย UNICEF ร่วมกับรัฐบาลชาดและพันธมิตรทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ส่งผลให้ยอดการสนับสนุนจาก ECW ในชาดขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้ช่วยเหลือเด็กไปแล้วกว่า 880,000 คนให้ได้รับความปลอดภัย ความหวัง และโอกาสผ่านการศึกษาที่มีคุณภาพ
ทุนสนับสนุนเชิงเร่งรัดของ ECW ถือเป็นส่วนสำคัญของแผนตอบสนองด้านมนุษยธรรมในชาด ซึ่งเรียกร้องเงินทุนจำนวน 28.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยขณะนี้ยังขาดเงินทุนอยู่ถึง 50% ของความต้องการทั้งหมด
Yasmine Sherif ผู้อำนวยการบริหาร Education Cannot Wait กองทุนระดับโลกเพื่อจัดการด้านการศึกษาในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตเรื้อรังของสหประชาชาติ กล่าวว่า "ชาดได้เปิดประตูต้อนรับผู้ลี้ภัยและนำเด็กผู้ลี้ภัยเข้าสู่ระบบการศึกษาของประเทศ นี่คือตัวอย่างที่โดดเด่นของการปกป้องผู้ลี้ภัย อย่างไรก็ตาม ความต้องการในปัจจุบันยังคงสูงกว่าทรัพยากรที่มีอยู่ เราจำเป็นต้องสนับสนุนชาดเพื่อให้สามารถรักษาความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยต่อไปได้ เราต้องการทรัพยากรทางการเงินเพิ่มเติมอย่างมาก และทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมีส่วนในการช่วยเหลือ ด้วยการระดมทุนเพิ่มเติมอย่างเพียงพอ เราจะต้องเพิ่มการสนับสนุนเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กและเยาวชนผู้ลี้ภัย รวมถึงครูของพวกเขาในชาดจะสามารถเข้าถึงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและปลอดภัยได้ การดำเนินการเหล่านี้รวมกันถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในด้านการศึกษาของผู้ลี้ภัย และเป็นการตระหนักถึงคำมั่นสัญญาที่เราทุกคนได้ให้ไว้ใน Global Refugee Forum"
Mamadou Gana Boukar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติและการส่งเสริมพลเมืองของชาด กล่าวว่า "ความท้าทายที่การศึกษาต้องเผชิญโดยทั่วไปมีความสำคัญ การสนับสนุนจากโครงการเสริมสร้างความพร้อมรับมือในระยะยาวมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านการศึกษาในภาวะฉุกเฉินของชาด การสนับสนุนนี้ไม่เพียงตอบสนองต่อวิกฤตการศึกษาในทันที แต่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย เราขอขอบคุณ Education Cannot Wait สำหรับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนการศึกษาในภาวะฉุกเฉินในชาด และขอเรียกร้องให้มีการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับความต้องการทางการศึกษาที่เร่งด่วนนี้"
ชาดเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยมากที่สุดในโลก โดยมีผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งมากกว่า 1.7 ล้านคน รวมถึงผู้ลี้ภัย 1.2 ล้านคน สาเหตุหลัก 4 ประการที่ทำให้เกิดความต้องการด้านมนุษยธรรมในชาด ได้แก่ การพลัดถิ่นจากความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ ภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ และผลกระทบจากภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศ
ปัจจัยเหล่านี้ เมื่อผนวกเข้ากับปัญหาการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่หนีสงครามในซูดานและผู้ที่เดินทางกลับจากสาธารณรัฐแอฟริกากลางและแคเมอรูน ได้สร้างความตึงเครียดด้านทรัพยากรของประเทศและขัดขวางความก้าวหน้าด้านการศึกษาสำหรับทุกคน เด็กและเยาวชนราว 3.2 ล้านคนไม่ได้รับการศึกษาภายในระบบการศึกษา และแม้ว่าเด็กจะได้เข้าเรียน แต่คุณภาพการศึกษาส่วนใหญ่นั้นล้าหลัง ค่าเล่าเรียนที่สูงยังทำให้เด็กไม่สามารถเข้าเรียนได้ บวกกับการเข้าถึงการศึกษาที่มักถูกจำกัดด้วยสถานการณ์ด้านสภาพอากาศที่รุนแรงและอันตรายยิ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ดร. Marcel Ouattara รักษาการผู้แทนของ UNICEF ในชาด กล่าวว่า "UNICEF ขอแสดงความขอบคุณต่อ Education Cannot Wait สำหรับการสนับสนุนอย่างไม่ลดละแก่เด็กวัยเรียนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตซับซ้อนในชาด ระยะที่สองของโครงการเสริมสร้างความพร้อมรับมือในระยะยาวนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและครอบคลุม โครงการนี้จะเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบการศึกษาในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะในจังหวัด Ouaddaï และ Logone Oriental ในปีต่อ ๆ ไป เราจะร่วมกันเปลี่ยนแปลงชีวิตและสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับเด็ก ๆ ในชาด"
เด็กจำนวน 66,600 คนที่เป็นเป้าหมายของการลงทุนเพื่อการกระตุ้นในครั้งนี้เป็นจะเป็นเด็กผู้ลี้ภัยกว่า 40% โครงการนี้ยังจะฝึกอบรมครูมากกว่า 1,500 คนในด้านการลดความขัดแย้งและความเสี่ยง การสนับสนุนด้านสุขภาพจิตและจิตสังคม และศึกษาศาสตร์ การดำเนินโครงการนี้ยังช่วยขับเคลื่อนการจดทะเบียนราษฎรสำหรับเด็ก การเข้าถึงเด็กหญิงกลุ่มเปราะบาง และการจัดเส้นทางการศึกษาที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเด็กที่มีความพิการ
เกี่ยวกับ Education Cannot Wait (ECW):
Education Cannot Wait (ECW) คือกองทุนระดับโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตการณ์ยืดเยื้อขององค์การสหประชาชาติ เราสนับสนุนผลลัพธ์ทางการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ รวมถึงเด็กหญิงและชายที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์อื่น ๆ เพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ECW ทำงานผ่านระบบพหุภาคีเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ รวมถึงมอบการบรรเทาทุกข์ในทันทีและการแทรกแซงในระยะยาวผ่านโปรแกรมระยะเวลาหลายปี ECW ทำงานร่วมกับรัฐบาล ผู้บริจาคภาครัฐและเอกชน หน่วยงานของสหประชาชาติ องค์กรภาคประชาสังคม และหน่วยงานด้านมนุษยธรรมและการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอื่น ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและยุติการตอบสนองแบบแยกส่วน ECW กำลังเปิดรับความช่วยเหลือจากผู้บริจาคภาครัฐและเอกชนอย่างเร่งด่วนเพื่อขยายการสนับสนุนในการเข้าถึงเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางยิ่งขึ้น
ติดตามเราได้ทาง X/Twitter: @EduCannotWait @YasmineSherif1 @KentPage
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.educationcannotwait.org
รูปภาพ – https://mma.prnasia.com/media2/2585593/Screenshot_2024_12_19_131221.jpg?p=medium600
โลโก้ – https://mma.prnasia.com/media2/1656121/Education_Cannot_Wait_Logo.jpg?p=medium600
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.