ปักกิ่ง–9 ตุลาคม 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
อามิริส รอดริเกส บาร์รอส (Amiris Rodrigues Barros) เด็กสาวชาวบราซิลผู้กำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยหนานไค (Nankai University) ในนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน หลงรักวัฒนธรรมจีนอย่างมาก เธอเริ่มต้นจากการเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง สู่การเป็นลูกศิษย์ของศิลปินผู้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีน
เธอเริ่มมีความสนใจในประเทศจีนสมัยเรียนชั้นมัธยมปลายในประเทศบราซิล โดยเธอเข้าเรียนวิชาภาษาจีนและเริ่มชื่นชอบอาหารจีน
ในปี 2562 อามิริสเป็นนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยหนานไค และหลงใหลในศิลปะการแสดง "จิงตง ต๋ากู่" (Jingdong Dagu) (แปลว่ากลองปักกิ่งตะวันออก) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติของจีน ทั้งนี้ "จิงตง ต๋ากู่" เป็นศิลปะพื้นบ้านที่ประกอบด้วยการตีกลองและการร้องเพลงพื้นเมืองโดยใช้ภาษาถิ่นของปักกิ่งตะวันออก
อามิริสกลายเป็นลูกศิษย์และผู้ช่วยในการแสดงของหวัง เหวินเล่ย (Wang Wenlei) ซึ่งเป็นศิลปิน "จิงตง ต๋ากู่" ส่งผลให้เธอได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนโบราณอย่างแท้จริง และหวังว่าจะได้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับบราซิล
"ฉันคิดว่านี่คือการแลกเปลี่ยนและสืบสานวัฒนธรรม เราชื่นชมซึ่งกันและกันและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ชาวจีนเรียกว่าการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรม" อามิริสให้สัมภาษณ์กับไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group)
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมระดับชาติที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานด้านการสื่อสารสาธารณะและวัฒนธรรม พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การปฏิบัติตามแนวทางการเปิดกว้างและการไม่แบ่งแยก ตลอดจนส่งเสริมให้ยึดมั่นในหลักการพื้นฐานไปพร้อมกับการบุกเบิกสิ่งใหม่ ๆ
สร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
จีนได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม พร้อมกับเดินหน้าส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมจีนกับอารยธรรมต่างประเทศ
ยกตัวอย่างนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีอาคารประวัติศาสตร์รวม 3,075 แห่ง ถนนและตรอกที่ได้รับการคุ้มครอง 397 แห่ง ย่านที่ได้รับการคุ้มครอง 250 แห่ง รวมถึงพื้นที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 44 แห่ง นับเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาของนครแห่งนี้
นอกจากนี้ วัฒนธรรมเมืองยังช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยในปี 2565 ผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้ คิดเป็นสัดส่วนราว 13% ของจีดีพีของเซี่ยงไฮ้
ในปี 2565 และ 2566 มีการจัดนิทรรศการต่างประเทศหลายรายการตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ต่าง ๆ ในท้องถิ่น โดยเป็นการนำเสนอผลงานศิลปะที่หลากหลายและสวยงามสู่สายตาชาวจีน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมอีกด้วย
การทัศนศึกษาด้านวัฒนธรรมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดึงดูดผู้คนจำนวนมากมายังพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนตลอดฤดูร้อนปีนี้
เพื่อตอบสนองต่อปรากฏการณ์ที่ผู้คนหลั่งไหลไปยังพิพิธภัณฑ์ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน พิพิธภัณฑ์ 46 แห่งในกรุงปักกิ่งจึงเปิดให้บริการทุกวันในเดือนสิงหาคม จากปกติที่หยุดวันจันทร์ ตามประกาศของสำนักมรดกทางวัฒนธรรมเทศบาลกรุงปักกิ่ง
กัว ซือเข่อ (Guo Sike) ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ขงจื๊อ ในเมืองฉวีฟู่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ได้กล่าวถึงต้นตอของกระแส "คลั่งไคล้พิพิธภัณฑ์" โดยระบุว่าเป็นเพราะ "ความคลั่งไคล้ในวัฒนธรรมจีนโบราณ" โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวชาวจีน
"คนรุ่นใหม่มีความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและรักวัฒนธรรมจีนโบราณอันงดงาม" คุณกัวกล่าว
เพื่อสร้างอารยธรรมจีนยุคใหม่บนจุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์ จีนต้องรักษาความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและเดินตามเส้นทางของตนเอง ตลอดจนผลักดันประสบการณ์ของจีนให้กลายเป็นทฤษฎีของจีน เพื่อความเป็นอิสระทางปัญญาและการพึ่งพาตนเองได้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการประชุมว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและการพัฒนา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ผู้นำจีนยังกล่าวด้วยว่า งานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการโดยเน้นไปที่ภารกิจใหม่ทางวัฒนธรรม ซึ่งก็คือการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม การสร้างประเทศให้เป็นผู้นำทางวัฒนธรรม และการสน้บสนุนอารยธรรมจีนยุคใหม่ ณ จุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์
การเรียนรู้ร่วมกันและการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า มีเพียงอารยธรรมที่มีความเชื่อมั่นเท่านั้นที่สามารถอดทน เรียนรู้ และซึมซับอารยธรรมอื่น ๆ พร้อมกับรักษาคุณลักษณะประจำชาติของตนเองเอาไว้
ผู้นำจีนกล่าวในงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ณ นครเฉิงตู เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแข่งขันที่มีต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์
"อารยธรรมมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทำให้โลกของเรามีสีสันและมีความหลากหลาย" เขากล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้สนับสนุนค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ในการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านมรดกทางวัฒนธรรมกับประเทศต่าง ๆ มากกว่า 20 ประเทศ ตลอดจนดำเนินการคุ้มครองและบูรณะโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม และสร้างความร่วมมือทางโบราณคดีกับประเทศที่เข้าร่วมข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)
ในระหว่างการประชุมเสวนาว่าด้วยอารยธรรมเอเชีย จีนได้จัดนิทรรศการอารยธรรมเอเชียและรวบรวมสมบัติทางวัฒนธรรมมากกว่า 400 ชิ้น จาก 49 ประเทศ เพื่อนำเสนอเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียและมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษย์ ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและการพัฒนาร่วมกันระหว่างอารยธรรม
ในระหว่างการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์และการพัฒนาวัฒนธรรมจีนโบราณอันวิจิตรงดงาม ตลอดจนเรียนรู้ร่วมกันและแลกเปลี่ยนกันระหว่างอารยธรรม
Source : CGTN: จีนส่งเสริมความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรม-การเปิดกว้างเพื่อพัฒนาอารยธรรมจีน
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.