ลอนดอน, 9 พฤศจิกายน 2566 /PRNewswire/ — มูลนิธิเพื่อการกุศล (Charities Aid Foundation) หรือซีเอเอฟ (CAF) เผยดัชนีการให้ระดับโลก (World Giving Index) ประจำปี 2566 ผลปรากฏว่า ผู้คน 4.2 พันล้านคนทั่วโลกเคยช่วยเหลือคนที่พวกเขาไม่รู้จัก ทั้งสละเวลาให้ หรือไม่ก็บริจาคเงินเพื่อการกุศล
ประเทศที่เอื้อเฟื้อที่สุดในโลกได้แก่อินโดนีเซีย ซึ่งครองอันดับนี้มาเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ส่วนประเทศที่เอื้อเฟื้อที่สุดเป็นอันดับสองได้แก่ยูเครน ซึ่งยังเป็นประเทศที่ไต่อันดับขึ้นมามากที่สุดของดัชนีนี้ด้วย โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นหลังจากติดอันดับที่ 10 ในปีที่แล้ว และมีเพียง 3 ประเทศจาก 10 อันดับแรกที่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก (อินโดนีเซีย สหรัฐ และแคนาดา) ขณะที่หนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดและด้อยพัฒนาที่สุดในโลกอย่างไลบีเรีย ติดอันดับ 4
ดัชนีการให้ระดับโลกของซีเอเอฟ (CAF World Giving Index) เป็นหนึ่งในผลสำรวจเกี่ยวกับการให้ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดทำมา โดยมีการสัมภาษณ์ผู้คนนับล้านคนทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2552 และดัชนีของปีนี้ยังรวมถึงข้อมูลจาก 142 ประเทศที่ผู้คนถูกตั้งคำถาม 3 ข้อได้แก่ พวกเขาเคยช่วยเหลือคนแปลกหน้า เคยให้เงิน หรืออาสาเพื่อการกุศลในรอบเดือนที่ผ่านมาหรือไม่
ข้อมูลใหม่ที่ออกมาในปีนี้แสดงให้เห็นปัจจัยใหม่ ๆ ที่มีอิทธิพลต่อความเอื้อเฟื้อทั่วโลกดังนี้
คนที่มีความเชื่อทางศาสนาแรงกล้ามีคะแนนดัชนีการให้โดยรวมสูงกว่า ยกเว้นยุโรปที่ไม่มีความแตกต่างในแง่นี้ คนที่ให้คะแนนชีวิตของตนเองในแง่บวกมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะช่วยเหลือการกุศล ขณะที่ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกหลายประเทศติด 10 อันดับแรกในเรื่องการบริจาคเงิน (สวีเดน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และไอซ์แลนด์) ผู้อพยพมีความเป็นไปได้ที่จะให้มากกว่าพลเมืองประจำชาติ โดยเฉพาะในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ
นีล ฮีสลอป (Neil Heslop) OBE ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิเพื่อการกุศล กล่าวว่า
"ดัชนีการให้ระดับโลกของซีเอเอฟทำให้เรามีเหตุผลที่จะมองมุมบวกอย่างมีความหวังในช่วงเวลาที่เกิดความไร้เสถียรภาพรุนแรง ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งที่อยู่ในพฤติกรรมมนุษย์โดยกำเนิด และผูกพวกเราทุกคนเข้าไว้ด้วยกันในฐานะประชาคมโลก ความหลากหลายของประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ ของดัชนีนี้สะท้อนให้เห็นความหลากหลายในแง่ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม การให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสัมพันธ์กับผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าพวกเขาอยู่อีกฝั่งของถนน หรืออยู่อีกด้านหนึ่งของโลก"
"นั่นคือสาเหตุที่เราเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทำมากกว่านี้ เพื่อสนับสนุนผู้ที่สามารถทำได้ เพื่อให้เงินและเวลาที่จะส่งเสริมองค์กรภาคประชาสังคมที่มีพลังและฟื้นตัวได้ ขณะที่องค์กรเหล่านี้กำลังเผชิญกับความท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ผลกระทบจากความขัดแย้ง และผู้พลัดถิ่น"
Source : อินโดนีเซียยังรั้งแชมป์ประเทศที่มีน้ำใจที่สุดในโลก ขณะยูเครนติดอันดับสอง
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.