ฮ่องกง, 2 พ.ย. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
การเชื่อมโยงของตลาดทุนของจีนและฮ่องกงแข็งแกร่งขึ้นอีกนับตั้งแต่มีการจัดตั้งโครงการอีทีเอฟ คอนเนคท์ (ETF Connect) ในเดือนกรกฎาคม 2566 และ ณ วันที่ 25 ตุลาคมปีนี้ กองทุนอีทีเอฟที่มีการเสนอขายผ่านโครงการดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 130 กองแล้ว ขณะที่ปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมดของโครงการนี้มีมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว แสดงให้เห็นถึงความนิยมต่อกองทุนอีทีเอฟในฐานะที่เป็นเครื่องมือจัดสรรการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาในระหว่างงานสัมมนาที่จัดขึ้นที่ฮ่องกงโดยอี ฟันด์ แมเนจเมนต์ ("อี ฟันด์" หรือ "บริษัทฯ") ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ที่สุดในจีนและบริษัทในเครือในฮ่องกง พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญในวงการกว่า 30 ท่าน ได้ร่วมกันแบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นของจีนและโครงการอีทีเอฟ คอนเนคท์
ในงานสัมมนานี้ ผู้แทนจากตลาดหุ้นเซินเจิ้นระบุว่า ตลาดอีทีเอฟในจีนมีการพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการส่งเสริมจากการเสนอขายผลิตภัณฑ์มากขึ้น และการตระหนักมากขึ้นของนักลงทุนท้องถิ่นเกี่ยวกับการลงทุนในอีทีเอฟ และ ณ สิ้นปี 2565 ขนาดทั้งหมดของตลาดอีทีเอฟมีมูลค่าเกือบ 1.8 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีกองทุนอีทีเอฟที่ไม่ได้อยู่ในตลาดเงินกว่า 700 กอง พุ่งขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เจฟฟ์ ลี (Jeff Li) ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนฝ่ายหุ้นต่างประเทศจากอี ฟันด์ กล่าวถึงการลงทุนในจีนจากมุมมองระดับโลก โดยระบุว่า จีนมีอุปสงค์ตลาดในประเทศที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจของจีนสดใส ฟื้นตัวไว และเต็มไปด้วยศักยภาพ และหุ้นจีนก็มีมูลค่าที่น่าสนใจมากในขณะนี้
สี่ เฉิง (Xi Cheng) ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนประจำแผนกการลงทุนในดัชนีของอี ฟันด์ กล่าวโดยตั้งข้อสังเกตถึงการขยายตัวเพิ่มขึ้นของอีทีเอฟว่า "ธุรกิจต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของจีนมีความพร้อมสำหรับการพัฒนาในระยะยาวที่ได้รับการขับเคลื่อนด้วยการขยายตัวของอุตสาหกรรมเกิดใหม่และความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนสามารถจับยึดโอกาสเหล่านี้ไว้ได้ด้วยการจัดสรรการลงทุนผ่านอีทีเอฟ" ขณะที่เจอรี่ เผิง (Jerry Peng) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจจีนจากเจน สตรีท (Jane Street) ระบุว่า โครงการอีทีเอฟ คอนเนคท์เป็นการพิจารณาที่สำคัญสำหรับผู้สร้างสภาพคล่อง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เม็ดเงินต่างประเทศเข้ามายังตลาดหุ้นเอ-แชร์ (A-share) พร้อมทั้งระบุว่า "การใช้โครงการคอนเนคท์เพื่อลงทุนในจีนจึงเป็นเรื่องสำคัญในบริบทนี้"
งานสัมมนาครั้งนี้ปิดฉากลงด้วยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของโครงการอีทีเอฟ คอนเนคท์ ซึ่งจะยังคงให้ช่องทางที่คุ้มค่าและโปร่งใสในการเข้าถึงตลาดทุนที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วของจีนแก่นักลงทุนต่างประเทศที่กำลังหาทางเพิ่มการกระจายพอร์ตการลงทุน และมีส่วนร่วมในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวของจีน
เกี่ยวกับอี ฟันด์ แมเนจเมนต์
อี ฟันด์ แมเนจเมนต์ (E Fund Management Co., Ltd.) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2544 เป็นผู้นำด้านการจัดการกองทุนแบบครบวงจรในประเทศจีน โดยมีทรัพย์สินในการดูแลมากกว่า 3 ล้านล้านหยวน (4.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) อี ฟันด์ ให้บริการโซลูชันการลงทุนแก่ลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ ช่วยให้ลูกค้าได้รับผลการดำเนินงานด้านการลงทุนที่ยั่งยืนในระยะยาว ลูกค้าของอี ฟันด์ มีทั้งบุคคลและสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัยและประกันภัยต่อ ไปจนถึงบริษัทและธนาคาร อี ฟันด์ มุ่งลงทุนในระยะยาว โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจการจัดการการลงทุนตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และเชื่อมั่นในพลังของการวิจัยเชิงลึกและเวลาในการลงทุน เป็นผู้บุกเบิกและผู้ประกอบการชั้นนำด้านการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบในประเทศจีน ทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือและโดดเด่นที่สุดของจีน
ณ วันที่ 25 ตุลาคม
Source : สำรวจความเป็นไปได้และโอกาส ในงานสัมมนาการจัดสรรการลงทุนในจีนผ่านโครงการ ETF Connect
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Thailand Business News.
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.