เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ธนาคารกลางพิจารณาลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
- นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเรียกร้องให้ธนาคารกลางพิจารณาลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณความขัดแย้งระหว่างผู้กำหนดนโยบายการคลังและการเงิน
- ราคาผู้บริโภคที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้และภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อทำให้ธนาคารกลางมีช่องทางในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- มาตรการที่เข้มงวดของธนาคารกลาง รวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุ
ธนาคารแห่งประเทศไทย คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ในเดือนพฤศจิกายน และจะทบทวนนโยบายอีกครั้งในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ รัฐบาลเศรษฐาเน้นกระตุ้นการเติบโตและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
การเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนี้เกิดขึ้นในขณะที่ราคาผู้บริโภคยังคงแสดงค่าที่ติดลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงช่องทางในการผ่อนปรน
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไทยลดลง 0.83% ในเดือนธันวาคม ถือเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันที่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย การลดลงนี้ต่ำสุดในรอบ 34 เดือนและเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันของการลดลง
อย่างไรก็ตาม ธปท. แนะนำว่าอาจไม่พร้อมที่จะพิจารณาผ่อนปรน โดยอ้างถึงราคาผู้บริโภคที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้อันเป็นผลจากเงินอุดหนุนจากรัฐ
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นไม่จำเป็น และอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อต่ำ เงินบาทอ่อนค่าตามความเห็นนายกฯ
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าจากโรคระบาด และนายกรัฐมนตรีตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเติบโตเป็น 5%
ความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีและธนาคารกลางเกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับแผนของรัฐบาลสำหรับโครงการแจกเงินสด
Discover more from ข่าวธุรกิจประเทศไทย
Subscribe to get the latest posts sent to your email.